“ว่านหางช้าง” เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพืชที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ใครที่อยากปลูกเอาไว้รักษาโรคหรือเพื่อประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ก็ได้ทั้งนั้น คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าพืชชนิดนี้เหมือนกับว่านเพชรหึง แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองแค่มีชื่อที่คล้ายคลึงเท่านั้น และลักษณะของพืชชนิดนี้อาจทำให้คุณเกิดการสับสนได้ ดังนั้นเพื่อให้คุณแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เราจะพาไปรู้จักว่านชนิดนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คุณรู้ว่ามีลักษณะอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง
ทำความรู้จัก “ว่านหางช้าง” ลักษณะเป็นอย่างไร พร้อมวิธีการดูแล
สำหรับว่านหางช้างเป็นสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยสรรพคุณหลากหลายอย่างเลยทีเดียว ขึ้นชื่อว่าดีต่อสุขภาพ และเป็นว่านที่หาได้จากธรรมชาติไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตราย ว่านชนิดนี้มีประโยชน์เพราะเปรียบเสมือนยาที่ช่วยบำรุงร่างกาย ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของว่านนี้คือ Iris domestica ส่วนใหญ่มักจะพบในภาคเหนือ ซึ่งในภาคเหนือเรียกว่านชนิดนี้ว่า ว่านมีดยับ และว่านแม่ยับ ลักษระจะเป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุมาอย่างยาวนาน ความสูงอยู่ในช่วง 1 เมตรไปจนถึง 1.5 เมตร ลำต้นใต้ดินมีรากค่อนข้างมาก ส่วนวิธีการปลูกเลี้ยงจะสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกหน่ออกมา
วิธีการดูแลว่านหางช้างจะไม่ได้ยากเลย เพราะเป็นต้นไม้ที่เหมาะกับเมืองไทย เนื่องจากต้องการแดดจัด ๆ และดินที่สามารถระบายน้ำได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้การเจริญเติบโตก็จะงอกงามแล้ว การรดน้ำควรจะทุก ๆ 1 ถึง 2 สัปดาห์ วิธีการสังเกตว่าควรรดน้ำหรือไม่ให้ดูว่าสภาพดินในตอนนั้นเริ่มแห้งหรือยัง? ถ้าหากดินเริ่มแห้งควรจะรดน้ำเพื่อให้มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอด ข้อควรระวังของว่านชนิดนี้คือถ้าปลูกในต้นไม้ที่ดินระบายน้ำไม่ดีอาจทำให้รากเน่าได้
ในกรณีที่คุณรดน้ำให้ว่านชนิดนี้มากเกินไป เราแนะนำให้คุณเปลี่ยนดินในทันที โดยให้ขุดดินเดิมออกมาและใช้ดินใหม่ เพื่อป้องกันการอุ้มน้ำมาจนเกินไป แล้วอาจทำให้เกิดโรครากเน่าได้ และถ้ามีสัญญาณว่าได้รับน้ำน้อยจนเกินไป เช่น ดินแห้ง ก็ให้คุณปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการรดน้ำให้สม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องของการใส่ปุ๋ย ควรจะใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสสูง อาจลองนำอัตราส่วน 5-10-5 NPL ไปใช้ตามกันได้ หรือถ้าต้องการปริมาณที่สมดุลก็อาจจะใช้เป็นอันตราส่วน 20-20-20 NPK ก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญต้นนี้เป็นต้นที่ต้องการแสงแดดที่เพียงพอ ควรจะให้ว่านรับแสงแดดต่อวันมากกว่า 6 ชั่วโมง
รวมประโยชน์ของว่านหางช้าง สมุนไพรไทยที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวย
สำหรับว่านหางช้างเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น เรายอมรับว่าหนึ่งในประโยชน์คือปลูกแล้วสวย แต่สมุนไพรไทยชนิดนี้ก็ยังมีประโยชน์อีกหลากหลายอย่าง สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักให้มากยิ่งขึ้น ลองเข้ามาศึกษาประโยชน์ของพืชชนิดนี้ก่อนได้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- เป็นว่านที่มีลำต้นสูงยาว ตัวลำต้นจะเป็นสีเหลืองสีคล้ายคลึงกับทอง ส่วนใหญ่คนมักจะเลือกเอาปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ เสริมความมงคลให้กับผู้อยู่อาศัย หากใครอยากจะปรับบ้านให้เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย การหยิบเอาว่านชนิดนี้มาปลูกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
- เป็นว่านที่ช่วยทำให้เจริญอาหารมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นยาแก้ไข้ได้อีกด้วย
- ส่วนรากและเหง้าสดมีประโยชน์คือ ช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ โดยให้นำรากหรือเหง้าสดมาต้มกินกับน้ำ และอาจจะผสมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
- ใบของว่านชนิดนี้สามารถใช้เป็นยาระบายได้ เพียงแค่นำส่วนใบมาต้มกินเท่านั้น
บทสรุป
“ว่านหางช้าง” เป็นพืชทางเลือกสำหรับคนที่อยากปลูกสมุนไพร เพราะว่านชนิดนี้มีประโยชน์หลายอย่างเลยทีเดียว แถมการดูแลก็ไม่ได้ยาก รดน้ำแค่เพียงครั้งละ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากว่านชนิดนี้ก็ยังมีว่านอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากใครอยากจะหันมาปลูกพืชชนิดต่าง ๆ สร้างสวนสวย ๆ ของตัวเอง สามารถเข้ามาอ่านบทความให้ความรู้ผ่านเว็บไซต์ของเราได้ เชื่อว่าคุณจะได้ความรู้และเลือกพืชที่ตอบโจทย์กับความต้องการกลับไปได้อย่างแน่นอน wildmushrooms.ws
บทความเพิ่มเติม
- แนะนำไอเดียจัดสวนหลังบ้าน พร้อมต้นไม้มงคลที่น่าปลูก
- ไฮเดรนเยีย ต้นไม้ที่มีดอกสีสันงดงามน่ารัก เหมาะกับการปลูกตกแต่งบ้าน
Sponsor : sa-game.bet
